ปัญหาที่เลี่ยงไม่ได้สำหรับคนใช้รถใช้ถนนหลังจากฝนตกอย่างต่อเนื่อง คงหนีไม่พ้นปัญหาน้ำท่วม แต่จะทำอย่างไร หากมีความจำเป็นจะต้องใช้เส้นทางนั้นๆ มีวิธีการใช้รถให้ปลอดภัย สบายใจจากปัญหาน้ำท่วมมีอะไรบ้าง
1. สังเกต สอดส่อง สังเกตระดับน้ำ และ สอดส่องหาเลนที่ระดับน้ำต่ำ ควรประเมินระดับน้ำเสียก่อน เพราะระดับความสูงของน้ำท่วมจะส่งผลเสียโดยตรงกับเครื่องยนต์ ระดับน้ำที่ปลอดภัยไม่ควรท่วมเลยฟุตบาทถนน หรือ ไม่ควรเกิน 30 เซนติเมตร หากสังเกตที่ล้อรถ ระดับน้ำประมาณครึ่งล้อคือระดับที่สามารถลุยไปได้ แต่หากท่วมถึงขอบประตู ควรเลี่ยงเส้นทางนั้นเพราะห้องโดยสารอาจเกิดระบบไฟช็อตและเครื่องดับได้
2. ชะลอความเร็วก่อนลุย หลังจากที่สังเกตระดับน้ำแล้ว หากเป็นระดับที่ลุยได้ เตรียมชะลอความเร็ว และ ระมัดระวังเสมอเมื่อต้องขับสวนกับรถคันอื่น เพราะยิ่งขับรถเร็ว กระแสน้ำก็ยิ่งพัดเข้าตัวเครื่องยนต์ และที่สำคัญประสิทธิภาพของผ้าเบรคจะลดลงมากกว่าปกติ อาจเสียการทรงตัว ไม่สามารถควบคุมรถได้ มีแต่จะเกิดเหตุอันตราย ดังนั้น ควรรักษาความเร็วไม่เกิน 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เกียร์กระปุกควรใช้ เกียร์ 1 หรือ เกียร์ 2 สำหรับเกียร์ออโต้ควรใช้เกียร์ L เวลาขับควรใช้ความเร็วต่ำที่สุดประมาณ 1,500 – 2,000 รอบต่อนาที และระวังอย่าให้รอบต่ำเกินไปเพราะเครื่องอาจดับได้
3. ปิดแอร์รถยนตร์ทันที เมื่อแอร์ทำงานใบพัดแอร์จะพัด ทั้งน้ำ เศษขยะต่าง ๆ ที่ลอยมากับน้ำ เข้าไปในเครื่องทำให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหายมีโอกาสน็อค และ ไม่สามารถขับต่อไปได้ดังนั้นจึงควรปิดแอร์ทันที
4. เว้นระยะห่าง เพื่อรักษาความปลอดภัย เมื่อต้องขับรถลุยน้ำท่วม ผ้าเบรคจะมีประสิทธิภาพลดลง หรือ เบรคไม่ค่อยอยู่นั่นเอง ดังนั้นเพื่อรักษาความปลอดภัยในการใช้รถ ใช้ถนนจึงเว้นระยะห่างต่อคันมากกว่าเดิม 2-3 เท่า และควรรักษาเส้นทางวิ่งเดียวกับคันข้างหน้า เนื่องจากน้ำท่วมขัง หากเป็นเส้นทางที่ไม่ชำนาญ อาจเจอกับหลุม บ่อ หรือ บริเวณที่ถนนชำรุดเสียหาย เพื่อให้ปลอดภัยมากที่สุด สังเกตเส้นทางของรถคันข้างหน้าให้ดี
5. ย้ำเบรค ย้ำคลัทช์ ย้ำเบรคเพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรคในกรณีที่เป็นรถเกียร์ออโต้ ส่วนรถเกียร์ธรรมดาให้ย้ำคลัทช์ เพื่อป้องกันคลัทช์ลื่น
6. จอดไว้สักครู่ เมื่อถึงจุดหมาย ไม่ควรดับเครื่องยนต์ทันที เพื่อให้น้ำที่อาจตกค้างอยู่ในหม้อพักท่อไอเสียระเหยออกมาให้หมด
7. เครื่องดับ อย่าพึ่งสตาร์ท เพราะน้ำอาจจะเข้าสู่ระบบเครื่องยนต์ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายได้ ควรนำรถไปในบริเวณที่พ้นน้ำเสียก่อน
หลังจากลุยน้ำท่วม เบื้องต้นควรทำความสะอาดส่วนต่างๆ หลังจากนั้นควรเลือกใช้สเปรย์หล่อลื่นอเนกประสงค์ IDEMITSU DAPHNE SUPER COAT JP ฉีดเพื่อป้องกันสนิม นอกจากนี้ยังช่วยไล่น้ำที่อาจจะตกค้างในเครื่องยนต์ เพียงเท่านี้รถยนต์ของหนูก็จะปลอดภัยเพราะมากกว่าสเปรย์หล่อลื่นอเนกประสงค์ที่ห่วงใยรถยนต์ก็คงเป็นพี่ที่ห่วงความปลอดภัยของหนูนะคะ
