รู้หรือยัง? น้ำมันเครื่องควรเปลี่ยนเมื่อไหร่ เพื่อปกป้องเครื่องยนต์ของคุณ

น้ำมันเครื่อง คือหัวใจสำคัญในการหล่อลื่นและปกป้องชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ให้ทำงานได้อย่างราบรื่น แต่หลายคนอาจไม่แน่ใจว่า ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเมื่อไหร่ ถึงจะเหมาะสมและช่วยยืดอายุการใช้งานของรถได้มากที่สุด บทความนี้จะพาคุณมารู้จักสัญญาณเตือนและวิธีตรวจสอบง่าย ๆ เพื่อไม่ให้คุณพลาดช่วงเวลาสำคัญ

ทำไมน้ำมันเครื่องถึงต้องเปลี่ยน

น้ำมันเครื่องมีหน้าที่หลักในการหล่อลื่น ป้องกันการสึกหรอ และช่วยระบายความร้อนของเครื่องยนต์ แต่เมื่อใช้งานไปสักระยะ น้ำมันจะเริ่มเสื่อมสภาพจากความร้อน คราบเขม่า และสิ่งสกปรกที่ปะปนเข้ามา หากไม่เปลี่ยนตามระยะ อาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายรุนแรง

สัญญาณที่บอกว่าควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง

แม้คู่มือรถจะระบุระยะทางหรือระยะเวลาที่ควรเปลี่ยน แต่บางครั้งสภาพการใช้งานจริงอาจทำให้ต้องเปลี่ยนเร็วกว่านั้น ลองสังเกต 3 สัญญาณหลักดังนี้

1. เสียงเครื่องยนต์ดังหรือทำงานผิดปกติ

หากได้ยินเสียงเครื่องยนต์แปลกไปจากเดิม เช่น เสียงดังแห้ง ๆ หรือเสียงกระทบกันภายใน อาจเป็นเพราะน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพและไม่สามารถหล่อลื่นได้เต็มที่

2. สีและกลิ่นของน้ำมันเครื่องเปลี่ยนไป

น้ำมันเครื่องที่ดีจะมีสีใสออกน้ำตาลอ่อน หากพบว่าสีเข้มจนเกือบดำ หรือมีกลิ่นไหม้ แสดงว่ามีคราบสกปรกสะสมมากเกินไป ควรเปลี่ยนทันที

3. ถึงระยะทางหรือเวลาที่กำหนด

โดยทั่วไปควรเปลี่ยนทุก 5,000–10,000 กม. หรือทุก 6–12 เดือน แม้จะขับไม่ถึงระยะทางที่กำหนดก็ตาม เพราะน้ำมันเสื่อมคุณภาพได้ตามเวลา

วิธีตรวจสอบน้ำมันเครื่องด้วยตัวเอง

• จอดรถบนพื้นราบและดับเครื่องยนต์ รอให้เย็นลง
  
• ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมา เช็ดให้สะอาดแล้วเสียบกลับเข้าไป
  
• ดึงออกอีกครั้งเพื่อตรวจระดับ ควรอยู่ระหว่างขีด Min และ Max
  
• สังเกตสีและกลิ่นของน้ำมัน หากผิดปกติให้เปลี่ยนทันที

แนะนำ 3 รุ่นน้ำมันเครื่อง Idemitsu 

• IDEMITSU IFG7 0W‑20 SP/GF‑6A
  รุ่นเรือธง ให้การปกป้องสูงสุดด้วยเทคโนโลยี Septet Guard ปกป้องเครื่องยนต์ขั้นสูง (อ้างอิงเดิม)
• IDEMITSU IFG3 0W‑20 SP/GF‑6A
  รุ่น Premium ที่มุ่งเน้นทำความสะอาด และประหยัดน้ำมัน (อ้างอิงเดิม)
• IDEMITSU IFG5 5W‑30 SP/GF‑6A
  รุ่นที่คุณต้องการเพิ่ม:
  • เทคโนโลยี Quintet Guard ช่วยดูแลการทำงานของเครื่องยนต์ในหลายด้าน ทั้งแรงบิด ความสะอาด และประหยัดเชื้อเพลิง

    เหมาะสำหรับ เครื่องยนต์ gasoline ที่ต้องการใช้เบอร์  5W‑30, รวมถึงแบบ เทอร์โบและไฮบริด

เคล็ดลับยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์

• ใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพสูงและตรงตามสเปกของผู้ผลิต
  
• เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องทุกครั้งที่ถ่ายน้ำมัน
  
• ตรวจเช็กเครื่องยนต์เป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนเดินทางไกล
  
• หลีกเลี่ยงการเร่งเครื่องแรงขณะเครื่องยังเย็น

สรุป

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตรงเวลาและสังเกตสัญญาณเตือน จะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ประหยัดน้ำมัน และลดโอกาสเสียหายที่อาจต้องซ่อมราคาแพง อย่ารอจนเกิดปัญหา เปลี่ยนถ่ายให้ทันเวลาเพื่อความปลอดภัยและความคุ้มค่าในระยะยาว